วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

มาตรฐานสำหรับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

มาตรฐานสำหรับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 

             
             
           
               การทำงานในสำนักงานจำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันโต๊ะทำงานแต่ละตัวจะเป็นเสมือนจุดหนึ่งของการประมวลผลการวิเคราะห์การแยกแยะข้อมูลและส่งให้โต๊ะอื่น ๆ หรือหน่วยอื่น ๆ ต่อไปการเชื่อมโยงเครือข่ายทำให้เกิดเป็น ระบบแห่งการประมวลผลหรือทำให้คอมพิวเตอร์หลาย ๆ ระบบเชื่อมเข้าด้วยกันระบบสำนักงานอัตโนมัติจึงเป็นเรื่องของการประมวลผลในจุดต่าง ๆ แล้วส่งข้อมูลถึงกันผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์
              เหตุผลของการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้าหากันเนื่องจากราคาของคอมพิวเตอร์ถูกลงและมีความต้องการเพิ่มขีดความสามารถของระบบโดยรวมเพราะอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวก็ทำงานได้ในตัวเองอย่างหนึ่ง แต่เมื่อรวมกันจะทำงานได้เพิ่ม ขึ้นและสามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้
              การส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายจำเป็นต้องมีมาตรฐานกลางที่ทำให้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างรุ่นต่างยี่ห้อทุกเครื่องหรือทุกระบบสามารถเชื่อมโยงกันได้ในระบบเครือข่ายจะมีการดำเนินพื้นฐานต่าง ๆ กันเช่นการรับส่งข้อมูล การเข้าใช้งานเครือข่ายการพิมพ์งานโดยใช้อุปกรณ์ของเครือข่ายเป็นต้น
              องค์กรว่าด้วยเรื่องมาตรฐานระหว่างประเทศจึงได้กำหนดมาตรฐานการจัดระบบการเชื่อมต่อสื่อสารเปิด (Open Systems Interconnection: OSI) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลระหว่าง 2 ปลายทางใด ๆ บนเครือข่ายระบบสื่อสารมีการแบ่งออก เป็นระดับ (Layer) ได้ 7 ระดับโดยแต่ละระดับจะมีการกำหนดมาตรฐานในการติดต่อเป็นของตัวเองและระดับหนึ่งจะติดต่อกับระดัที่เท่ากันของอีกปลายหนึ่งระดับที่สูงกว่าจะสั่งงานและรับข้อมูลที่ประมวล ผลแล้วจากระดับที่ต่ำกว่าโดยไม่จำเป็นต้องทราบรายละเอียดของระดับที่ต่ำกว่า
              การสื่อสารในระดับต่าง ๆ จะอาศัยการควบคุมเพื่อให้ระบบการทำงานนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องมีมาตรฐานโดยการสื่อสารข้อมูลแบบแพ็กเก็ตจะเกี่ยวพันกับ 3 ระดับล่างซึ่ง ได้แก่
              1 ระดับฟิสิคัล (ชั้นกายภาพ) เป็นระดับที่เกี่ยวข้องกับการรับข้อมูลเป็นบิตซึ่งเกี่ยวข้องกับระดับแรงดันไฟฟ้าช่วงความถี่คาบเวลา
              2 ระดับดาต้าลิงค์ (เชื่อมโยงข้อมูล Layer) เป็นระดับที่ทำการแปลงการรับส่งข้อมูลที่มีความไม่แน่นอนให้แน่นอนขึ้นโดยการจัดรูปแบบข้อมูลเป็นบล็อกเช่นเฟรม (Frame) พร้อมทั้งมีการตรวจสอบข้อผิดพลาด
              3 ระดับเนตเวอร์ค (Network Layer) ทำการส่งข้อมูลเป็นแพ็กเก็ตเข้าไปในเนตเวอร์คแพ็กเก็ตก็อาจเดินทางไปอย่างอิสระโดยมีการจ่าหน้าแอดเดรสของผู้รับและผู้ส่งวิธีนี้เรียกว่า Datagrame

              ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากทั่วโลกแต่ละคนใช้คอมพิวเตอร์ต่างแบบต่างรุ่นกันดังนั้นสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องอาศัยกลางที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้ากันกันได้ซึ่งกลางนี้มีชื่อทางเทคนิค "โปรโตคอล" (ก็การภาษาภาษาว่า protocol) สำหรับโปรโตคอลมาตรฐานที่ใช้ในการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตมีชื่อเรียกว่า TCP / IP ซึ่งได้แพร่หลายไปทั่วโลกพร้อม ๆ กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเป็นโปรโตคอลที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
              การทำงานของโปรโตคอล TCP / IP จะแบ่งข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่งไปยังเครื่องอื่นไปส่วนย่อย ๆ (เรียกว่าแพ็คเก็ต: แพ็คเก็ต) และส่งไปตามเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดยการกระจายแพ็กเก็ตเหล่านั้นไปหลายทาง โดยในแต่ละเส้นทางจะไปรวมกันที่จุดปลายทางและถูกนำมารวมกันเป็นข้อมูลที่สมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง
              รูปแบบการทำงานของโปรโตคอล TCP / IP ที่มีการแบ่งข้อมูลและจัดส่งเป็นส่วนย่อยจะสามารถช่วยป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการติดต่อสื่อสารได้เพราะถ้าข้อมูลเกิดสูญหายก็จะเกิดเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นมิใช่ หายไปทั้งหมดซึ่งคอมพิวเตอร์ปลายทางสามารถตรวจหาข้อมูลที่สูญหายไปได้และติดต่อให้คอมพิวเตอร์ต้นทางส่งเพียงเฉพาะข้อมูลที่หายไปมาใหม่อีกครั้งได้
              โปรโตคอล TCP / IP ถูกคิดค้นโดยรัฐบาลสหรัฐและถูกนำมาใช้กับเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพี่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นในกรณีที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ใหญ่ในรัฐใดรัฐหนึ่งถูกโจมตีจนได้รับความเสียหายเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ส่วนที่เหลือก็ยังสามารถติดต่อถึงกันได้อยู่เพราะข้อมูลจะถูกโอนย้ายไปตามเส้นทางอื่นในเครือข่ายแทน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น